ปี 2024 ถือเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้น เพราะการมาของ AI ที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น ทั้งเป็น tools ในการทำงาน หรือช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิต แน่นอนว่าจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นวงกว้าง
สิ่งที่เกิดขึ้นก็อาจจะทำให้คนทำงานรู้สึกว่าเราเนี่ย จะถูก AI แย่งงานไหม ? ทุกวงการล้วนตั้งคำถามครับ คนทำ SEO ก็เช่นกัน(ผมเองแล้ว1) ยิ่งอากู๋ Google เปิดตัว SGE โมเดล Search Engine รูปแบบใหม่ที่ใช้ AI เข้ามามีส่วนร่วมในการค้นหา และได้เริ่มทดลองใช้แล้วในหลายหลายประเทศ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในปีนี้จะทำให้หน้าตาของวงการ SEO เป็นอย่างไรไปดูกันครับ
ต้องบอกก่อนว่าข้อมูลเหล่านี้อ้างอิงมาจาก Search Engine Journal หัวข้อ SEO Trends 2024 ใครอยาอ่านต้นฉบับท้ายบทความจะทิ้งไว้ให้ไปโหลดกันครับ
1.Content (ยังคง)ต้องเป็นประโยชน์
อาอีกแล้วทำ SEO ทีไรบอกเรื่องนี้เรื่องเดิมทุกปีเลย แต่นี่คือ Core Value ของ google ที่ต้องการส่งเนื้อหาคุณภาพให้กับผู้ใช้ เพราะถ้า google หลับหูหลับตาจัดอันดับแต่เนื้อหาที่ไม่มีคุณภาพขึ้นมาบนๆ แล้วผู้ใช้ก็เห็นเนื้อหาไม่มีคุณภาพ วันนึงเขาเลิกใช้ครับ
แต่นิยามของคำว่าเนื้อหาที่มีคุณภาพในปี 2024 ไม่ใช่แค่การทำ SEO ที่มีจำนวนคีย์เวิร์ดที่เหมาะสม จำนวนคำเยอะ แบ่งหัวเรื่องได้ถูกตามหลัก SEO สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องทำอยู่แล้ว แต่เนื้อหาคุณภาพในที่นี้หมายถึง Helpful Content ก็คือเนื้อหาที่สามารถแก้ปัญหาของลูกค้าได้อย่างตรงจุด เขาต้องการคำตอบอะไรเราให้คำตอบเค้าได้และถ้าจะให้ดีให้เราวางกลยุทธ์การทำคอนเทนท์ให้ดีนอกจากแก้ปัญหาเขาแล้วเรายังควรนำเสนอวิธีแก้ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นใน step ถัดไปกับเขาด้วย
เช่น เนื้อหาเกี่ยวกับการลดน้ำหนัก คอนเทนท์ของเราอาจจะทำเกี่ยวกับโปรแกรมการลดน้ำหนักที่มีตารางการออกกำลังกายและตารางโภชนาการให้เขาสามารถทำตามได้ง่ายง คอนเทนต์ที่ควรมีเพิ่มเติมก็คือ เมื่อลดน้ำหนักได้ถึงเป้าหมายที่ต้องการแล้วมีวิธีการอย่างไรที่ทำให้น้ำหนักไม่เด้งกลับหรือพฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่ทำให้มีหุ่นดีที่ยั่งยืนไม่ต้องกลับมาอ้วนใหม่
การวางกลยุทธ์ SEO แบบนี้จะเป็นการทำให้ผู้ใช้อยู่ในเว็บไซต์ของเราตั้งแต่ต้นจนจบและมองว่านี่คือเนื้อหาที่มีคุณภาพ สามารถแก้ปัญหาเค้าได้ในระยะสั้นและดูแลเขาได้ในระยะยาว
ประเด็นต่อมาของเนื้อหา SEO ที่มีคุณภาพก็คือ ฝั่งเว็บไซต์ต้องสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ให้ดีด้วยก็คือเรื่อง Technical SEO ทั้งหลาย ความเร็วในการโหลดความเหมาะสมของไฟล์รูปภาพโครงสร้างเว็บไซต์ง่ายน่าดึงดูดมี CTA ที่ชัดเจน
ง่ายๆ ก็คือการทำ SEO ต้องสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าตั้งแต่ยังไม่คลิกบทความ ง่ายง่ายก็คือต้องสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าตั้งแต่เค้าเข้ามาที่หน้าเว็บไซต์ หลายคนกลัวว่าเว็บไซต์จะตาย SEO จะตายเพราะโซเชียลมีเดียมาแรงและมีลูกเล่นที่ดูหวามากกว่า แต่ความเป็นจริงเว็บไซต์จะไม่ตายถ้าคุณพัฒนาเนื้อหาและประสบการณ์ของผู้ใช้ได้ดี และอย่าลืมว่า รายได้หลักของกูเกิลก็มาจาก Google Ads เขาไม่ทำลายธุรกิจตัวเองแน่นอน!
เอาจริงๆ มันคนละจุดประสงค์กันอยู่แล้วครับคนเข้าโซเชียลมีเดียอาจจะอยากได้ข้อมูลที่รวดเร็วและฉับไวเช่นการซื้อของง่ายหาข้อมูลไม่ได้ซับซ้อนมาก ส่วนจุดประสงค์ของการเข้าเว็บไซต์คือต้องการข้อมูลเชิงลึก ดูเป็นทางการขึ้นมาหน่อยดังนั้นมันไม่มีใครแย่งใครแต่มันขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของผู้ใช้มากกว่า
2.ต้องเป็น Expert จึงจะอยู่รอด
ปี 2024 มันเถื่อน…ถ้าไม่แน่จริงอยู่ไม่ได้
คำว่าเชี่ยวชาญคือเราต้องรู้ลึกรู้จริงและถ่ายทอดให้เป็นครับ เพราะข้อมูลที่ผิวเผินมันมีมากพออยู่แล้วในตอนนี้ Google ต้องการให้เนื้อหามีความเป็นเฉพาะเจาะจงมากขึ้นดังนั้นอินไซท์ต่างๆจะมาจากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนั้นจริงๆ Siri จะเป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เราจะแตกต่างจาก ai ได้
จริงอยู่ที่ ai สามารถเขียนคอนเทนท์ SEO แทนเราได้ให้ข้อมูลที่แม่นยำได้แต่สิ่งที่ ai จะยังให้ไม่ได้คือประสบการณ์ส่วนตัว มันมีความสำคัญตรงที่ความเชี่ยวชาญจะเกิดขึ้นได้ก็นอกจากความรู้แล้วก็ต้องเป็นประสบการณ์ในการใช้งานด้วยจริงไหมครับ ?
ดังนั้นโจทย์ของเนื้อหาที่ดีคือเราจะสามารถแสดงความเป็นผู้เชี่ยวชาญให้กับผู้ใช้ได้อย่างไร ?
มันก็ต้องเป็นในลักษณะที่ว่านอกจากให้ข้อมูลพื้นฐานให้ครบถ้วนแล้วเรายังสามารถให้คำแนะนำบอกเล่า insight เปรียบเทียบสินค้าบริการประเภทอื่นที่เราเคยมีประสบการณ์ส่วนตัวลงไปด้วย แบบนี้ Google ชอบ ซึ่งมันก็ตรงกับเกณฑ์ในการวัดผลเว็บไซต์แบบ E-E-A-T(Experience-Expertise-Authoritativeness-Trustworthiness) พอดี
นอกจากการมุ่งเน้นเนื้อหาที่มีคุณภาพอย่างดีต่อการทำ SEO ในปี 2024 แล้ว ส่วนตัวผมมองว่ามันเป็นข้อดีกับธุรกิจของเราด้วยซ้ำ เพราะการที่เราเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจมันคือการเพิ่มพูนความรู้ให้ตัวเราเองและเป็นผลดีต่อแบรนด์ในระยะยาวด้วย การเปลี่ยนแปลงไม่ได้น่ากลัวครับ มันมีแต่ ได้กับได้
3.AI จะมีความสำคัญ แต่จะไม่แย่งงานคน
จะเห็นได้ว่าช่วงนี้มีการนำ AI เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันมากขึ้น มี Generative AI เกิดขึ้นมากมาย แน่นอนว่าเมื่อมันเกิดขึ้น ย่อมส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป การทำ SEO ก็เช่นกัน
แม้จะมีหลายคนกลัวว่าความสามารถของ ai จะมา แย่งงานคนรวมถึงในสายงาน SEO ด้วยก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้ว Ai ถือเป็น tool ที่มีประโยชน์ ที่ช่วยลดภาระการทำงานของเราลงได้หลายอย่าง
เพราะงานด้าน SEO เป็นงานที่ต้องใช้ข้อมูลเยอะ เราใช้ AI ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเยอะๆ ในการทำ Keyword Research ได้ หรือจะให้ช่วยหา Search Intent ด้วยก็ยังได้ เพราะแค่เรา Prompt ลงไปว่า keyword ที่เราโฟกัส คาดว่าผู้ใช้เขามี search intent แบบใด(ห์) แทนที่จะต้องหาข้อมูลด้วยตัวเอง เราสามารถได้ข้อมูลจำนวนหนึ่งมาวิเคราะห์ได้อย่างรวดเร็ว นี่ยังไม่รวมถึงการให้ AI เขียนบทความด้วยนะ แต่ก็ควรใช้อย่างมีชั้นเชิง ไม่ควรก๊อบคำตอบมาทั้งดุ้น แบบนี้ก็เป็นการสร้างเนื้อหาที่ไม่มีคุณภาพ
ถึง AI จะมาทำงานแทนคนได้ในบางฟังก์ชั่น แต่ก็ยังไม่สามารถแทนคนได้ทั้งหมด(อย่างน้อยก็ตอนนี้) คือเรื่องของการนำข้อมูลที่มีไปต่อยอด สื่อสารอย่างไรให้คนเข้าใจ นี่คือสิ่งสำคัญ การเกิดขึ้นของ AI ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย หนำซ้ำมันยังเป็นประโยชน์มากมายให้กับผู้คน และในเมื่อเราหลีกเลี่ยงไม่ได้แทนที่เราจะต่อต้านเราก็เรียนรู้ที่จะอยู่กับมันจะดีกว่าครับ
4.ยุคใหม่ของ SEO สู่ SXO
ประสบการณ์ของผู้ใช้จะมีความสำคัญมากขึ้น เพราะนี่คือยุคของ Search Experience Optimizer เราจะได้เห็นฟีเจอร์ใหม่ๆ มากมายที่จะเกิดขึ้น การทำ On-page SEO จะไม่ใช่แค่การดูแค่ H1, H2 และ alt-tagอีกต่อไป แต่จะขยายไปถึงการ Optimize ทั้งเว็บไซต์ให้ดีขึ้น CWVs ก็จะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น นี่ถึงเป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่บอกว่า Technical SEO ยังคงมีความสำคัญอยู่
สรุป
เมื่อได้อ่านและสรุปออกมาแล้ว ก็ถือว่าได้กำลังใจอยู่ครับว่าเรายังได้ไปต่อ(ฮา) โลกเปลี่บนแปลงทุกวัน นวัตกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาล้วนต้องการให้มนุษย์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทั้ง AI ที่จะทำให้การหาข้อมูลง่ายขึ้น การพัฒนาของกูเกิล ก็ต้องการให้ผู้ใช้ได้ประโยชน์จากการค้นหาข้อมูลมากขึ้นเราทุกคนมีหน้าที่ใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ และไม่มีใครถูก Disrupt แน่นอน หากว่าคุณเรียนรู้ที่จะใช้มัน และไม่ลืมหน้าที่ของการทำ SEO คือช่วยให้ธุรกิจได้เชื่อมต่อกับลูกค้าเครื่องมือและแพลตฟอร์มอาจจะเปลี่ยนแปลงแต่หน้าที่ของเราจะไม่เปลี่ยนไป