วิธีเขียนบทความ SEO ทำยังไงแตกต่างกับการเขียนทั่วไปยังไง ?

เมื่อพูดถึงการทำ SEO เป้าหมายคือ การดันอันดับเว็บไซต์ให้คน search หาเราเจอ มันมีวิธีการที่หลากหลายในการที่จะทำให้เว็บไซต์ติดอันดับ แต่ละเว็บไซต์ แต่ละธุรกิจก็มีรูปแบบที่ต่างกันไป 

ส่วนตัวผมที่ได้รู้จักกับ SEO ครั้งแรกก็จะรู้แค่เป้าหมาย แต่ขาดวิธีการ จับต้นชนปลายไม่ถูกว่าแล้วเราจะดันอันดับเว็บไซต์ยังไง ? จนกระทั้งทำงานที่แรก ได้มีส่วนช่วยในการเขียนบล็อกลงเว็บไซต์ของบริษัท(ปัจจุบันเว็บนั้นปลิวไปแล้ว แต่ไม่ใช่เพราะผมนะครับ) ก็ได้รู้จักกับอาวุธชิ้นแรกในการทำ SEO

ทำไมบทความ SEO จึงเป็นสิ่งสำคัญ ?

เพราะเป้าหมายของคนเข้าเว็บไซต์คือคนต้องการ “ข้อมูล” ครับ ย้อนไปในช่วงที่อินเตอร์เน็ตยังไม่มีฟังก์ชั่นการทำงานอะไรมากมาย ข้อมูลประเภทเดียวที่หาได้คือ บทความครับ เหมือนโลกความเป็นจริงเลยครับ ก่อนจะมีรูป มีวิดีโอ สิ่งที่มาก่อนคือ หนังสือ และไม่มีอะไรที่ disrupt หนังสือด้วยนะ บทความก็เช่นกันครับ แน่นอนว่าคนอาจจะอ่านน้อยลง แต่ปัจจุบันมันก็จะยังอยู่อย่างนั้น แล้วจริงๆ การเขียนบทความ SEO ก็เป็นเครื่องมือการทำ SEO ที่ซับซ้อนน้อยที่สุด ทีนี้จะอธิบายถึงความแตกต่างระหว่างการเขียนบทความทั่วไปกับการเขียนบทความ SEO

การเขียนบทความทั่วไป

สมัยเรียนเคยเขียนเรียงความหรือรายงานไหมครับ ? อาจจะมีการบรีฟย่อหน้าบ้างนิดหน่อย เขียนให้จับใจความได้เป็นพอ หรือถ้าเทียบกับปัจจุบัน เหมือนเราเขียนแคปชั่นยาวๆ ลงโซเชียลมิเดีย เราก็แค่เขียนตามความรู้สึก อยากเขียนอะไรก็เขียน อันนี้คือการเขียนบทความทั่วไป ไม่ได้มีหลักการใดๆ

การเขียนบทความ SEO

การเขียนบทความ SEO เองสามารถใช้อารมณ์และความรู้สึกเหมือนหัวข้อที่แล้วได้ 100% ขึ้นอยู่กับน้ำเสียงและสไตล์ของผู้เขียน สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาคือ จะมีโครงสร้างของบทความเข้ามามีส่วนร่วม มีไว้เพื่อให้ crawler ได้ตรวจจับคุณภาพของเนื้อหาเพื่อนพไปจัดอันดับในกูเกิลต่อไป พูดง่ายๆ คือ ต้องเขียนดี และเป็นระเบียบ ถึงจะถูกหลักการทำ SEO นั่นเอง แล้วโครงสร้าง หรือระเบียบที่ว่ามีอะไรบ้าง ไปดูกันครับ

Keyword

คีย์เวิร์ด หรือ คำสำคัญในบทความ นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเขียนบทความ SEO เพราะเป็นสัญลักษณ์ว่าบทความนี้กำลังพูดถึงเรื่องอะไร เช่น หากว่าบทความนี้ได้เขียนเกี่ยวกับการเขียนบทความ SEO แล้วในบทความมีคำว่าการเขียนบทความ SEO น้อยมาก มันจะเป็นยังไงครับ ? นอกจาก crawler จะไม่รู้ว่าเราเขียนเกี่ยวกับเรื่องอะไรแล้วเนี่ย คนอ่านก็คงอ่านไม่รู้เรื่องเหมือนกัน 555+ นี่แหละครับ หน้าที่ของ Keyword จริงๆ ซึ่งการใส่ keyword ให้เหมาะสมก็ต้องคำนึงถึงหลัก Keyword Density หรือความหนาแน่นของ keyword ในบทความนั้นๆ ด้วย เพราะถ้าน้อยไป ก็ไม่จัดอันดับ หรือถ้ามากไป ก็อาจถูกมองว่าเป็นการสแปมได้

การเขียนบทความ SEO จึงต้องมีการวางแผนคีย์เวิร์ดให้ดีว่าจะใส่ keyword ปริมาณเท่าไรจึงจะเหมาะสม ตัวเลขคร่าวๆ ก็ประมาณ 1-3% ต่อจำนวนคำทั้งหมดของบทความถือว่ากำลังดี ไม่น้อยเกินจนจับใจความไม่ได้ และไม่เยอะเกินไปจนดูยัดเยียด แต่ยังไงใจความของเนื้อหาก็สำคัญที่สุดนะครับ

โครงสร้างบทความ

ต้องมีการแบ่งหัวข้อ(Heading)ชัดเจนเพื่อให้บอทเข้าไปตรวจสอบได้ง่ายอย่างเป็นระบบ ถึงตอนนี้มือใหม่จะได้รู้จัก H1, H2, H3 ที่มีไว้แบ่งส่วนเนื้อหา 

  • H1 คือ หัวเรื่อง มีได้แค่ส่วนเดียวเท่านั้นในบทความ
  • H2 คือ หัวข้อ รองจากหัวเรื่อง ไว้แบ่งเป็นประเด็นต่างๆ
  • H3 คือ หัวข้อย่อยของหัวข้อ(?) หมายถึง ข้อเล็กๆ ที่แตกประเด็นออกมาอีกที ในการเขียนบทความ SEO นิยมใช้เป็น Bullet(•)

นอกจากนี้ยังมี H4, H5 แล้วแต่รูปแบบของบทความครับ แต่มาตรฐานคือไม่ควรเกิน H4 เดี๋ยวจะอ่านยากเกินไป

อีกอย่างคือ paragraph นึงไม่ควรหนาเกิน เพราะคนอ่านก็จะเพลียได้ พยายามแบ่งเป็นย่อหน้า จะได้ง่ายทั้งคนอ่าน คนเขียน และบอทครับ 🙂

จำนวนคำ

มีงานวิจัยปี 2024 จาก Backlinko สรุปไว้ว่าจำนวนคำที่เหมาะสมกับบทความ SEO คือ 1,447 คำโดยเฉลี่ย จะถูกจัดอันดับได้ดี แต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบทความเช่นกัน เพราะถ้าสุดท้ายไม่ถึงแล้วฝืนเขียนให้ถึง จะมีผลเสียมากกว่าผลดี หลักการเหล่านี้เรารู้ไว้เป็นเรื่องดี แต่ต้องเอามาใช้ให้เหมาะสมครับ

เทคนิคเพิ่มเติม

การเขียนบทความ SEO จัดอันดับได้ดี นอกจากให้ความสำคัญกับข้อบนๆ ที่กล่าวไปแล้ว เราสามารถแนบ 

Internal Link เพื่อเชื่อมไปยังบทความอื่นของเราต่อ เพื่อให้คนยังอยู่ในเว็บไซต์ของเราได้นานขึ้น หรือการใส่ลิงค์ให้กับเว็บอื่นที่เรียกว่า Backlink ในกรณีที่เราต้องการให้เครเดิตเนื้อหาต้นทาง ซึ่งไม่ใช่การใส่ลิงค์สุ่มสี่สุ่มห้า แต่ต้องเป็นลิงค์ที่เนื้อหามันสัมพันธ์กันจริงๆ 

และควรมีความรู้ในการทำ On-Page SEO ส่วนอื่นไว้บ้าง เช่น การทำ Meta Description หรือส่วนเกริ่นนำที่ให้น่าสนใจ การใส่ Alt Text ให้กับรูปภาพเพื่อผลลัพธ์เชิงเทคนิค จะทำให้บทความถูกจัดอันดับได้ดีขึ้นไปอีก

สรุป

บทความยังคงเป็นเครื่องมือการทำ SEO ได้ดีไม่แพ้เนื้อหาประเภทอื่น สำหรับมือใหม่ควรศึกษาพื้นฐานของการเขียนไว้เพื่อเป็นการทำความเข้าใจกับ SEO เบื้องต้น แน่นอนว่าไม่มีใครที่เขียนเก่ง ติดอันดับตั้งแต่บทความแรกๆ แค่มีความพยายามและทำต่อเนื่อง(แบบมีทิศทาง) ก็จะช่วยพัฒนาฝีมือให้เก่งขึ้นในอนาคตได้

Scroll to Top